ลำดับเหตุการณ์ก่อนเรื่องราว
คริสต์ศักราช
ปี 2045~2050
· จีน, ต่อเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานปรมาณูที่มีระบบปล่อยเครื่องบินแม่เหล็กไฟฟ้า (EMALS) 15 ลำเสร็จสิ้น· เกาหลีเหนือ, ลงนามปลดอาวุธนิวเคลียร์
· เกาหลีใต้ได้ทำการรวม เกาหลีเหนือ-ใต้เข้าเป็นหนึ่งเดียวกันได้สำเร็จ กองกำลังทหารสหรัฐฯ ในเกาหลีใต้ถอนกองกำลัง
· เกิดสงครามไซเบอร์สหรัฐฯ-จีนขึ้นอย่างกะทันหัน กองทัพปลดปล่อยประชาชนทำให้ระบบการสื่อสาร, ระบบนาวิเกเตอร์, ระบบควบคุมอาวุธปืนและระบบสนับสนุนการเดินเรือใช้การไม่ได้ กองเรือรบของสหรัฐฯ จึงพังพินาศ ประเทศจีนได้เข้ายึดครองไต้หวัน, หมู่เกาะพาราเซลและหมู่เกาะสแปรตส์
· สหรัฐฯ-อินเดียลงนามสนธิสัญญาพันธมิตรทางการทหาร
· แม้สหรัฐฯ และอินเดียจะแอบวางแผนโครงข่ายครอบคลุมกับจีนด้วย แต่เกิดจลาจลจากฝ่ายต่อต้านสหรัฐฯ ขึ้นภายในประเทศอินเดีย ในความเป็นจริงแล้วนั่นได้กลายเป็นการยกเลิกสนธิสัญญาสหรัฐฯ-อินเดีย
· ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศเรดไลน์
· เกิดระเบิดปรมาณูขึ้นในทวีปอเมริกาเหนือจากระบบขัดข้อง สหรัฐฯ กล่าวว่าระเบิดปรมาณูเกิดความผิดพลาดมาจาก การโจมตีทางไซเบอร์ของประเทศจีน
· สหรัฐฯ ตัดสินใจใช้กลยุทธ์อาวุธปรมาณู ทิ้งระเบิดลงที่เซี่ยงไฮ้และกวางตุ้ง (เกิดเป็นมหาสงครามนิวเคลียร์ขึ้น)
· ประเทศจีนใช้กลยุทธ์อาวุธปรมาณูทิ้งระเบิดลงที่นิวยอร์คและลอสแอนเจลิส เป็นการล้างแค้น ด้วยเหตุนี้รัสเซีย ตะวันออกกลาง เวียดนามและประเทศในยุโรป ต่างก็เข้าร่วมสงคราม แต่ละประเทศบนโลก เกิดการล้างแค้นเป็นลูกโซ่ขึ้น
· มีการกำจัดสายลับแต่ละประเทศ เพื่อการปิดกั้นข้อมูล จึงมีการทำลายสายเคเบิ้ลใต้ทะเลทั้งหมดบนโลก ในความเป็นจริงแล้ว นั่นคือการล่มสลายของบริษัทดิจิทัลเน็ตเวิร์ค
· อุณหภูมิเฉลี่ยบนโลกลดต่ำลง
ปี 2051~2055
· ประเทศจีนเข้าฆ่าล้างเผ่าพันธุ์สหรัฐฯ ในคราวเดียวกัน ฐานทัพสหรัฐฯ ในแต่ละประเทศก็ได้แตกพ่ายไป· ประเทศจีน แม้จะชนะมหาสงครามนิวเคลียร์ แต่กลับประสบปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ จากการแย่งชิงอำนาจภายในพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน จึงเกิดสงครามภายในขึ้น
· เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์, เขตปกครองตนเองมองโกลและเขตปกครองตนเองทิเบต ประกาศเอกราช
· พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนล่มสลาย กองกำลังทหารขึ้นปกครองตนเองเข้าสู่ยุคสงครามกลางเมือง
· ญี่ปุ่น ติดหล่มอยู่กับปัญหาการสืบทอดราชบัลลังก์ขององค์จักรพรรดิโดยไม่ได้กำหนดตัวจักรพรรดิองค์ต่อไป ในความเป็นจริงแล้วนั่นคือการยกเลิกการสืบสันตติวงศ์โดยไม่ได้เปลี่ยนรัชศกใหม่
· ญี่ปุ่นได้กลายเป็นศูนย์กลางการอพยพเข้าประเทศอย่างผิดกฏหมาย ของผู้อพยพเชื้อสายเกาหลีและจีน
· โรคติดต่อทางอากาศแพร่ระบาดทุกหนแห่งในญี่ปุ่น เกิดการจลาจลของลัทธิต่อต้านต่างชาติขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปี 2056~2058
· เกิดแผ่นดินไหวใต้เมืองหลวงโดยตรง เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมกะทรัสต์นันไคขึ้น มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 4 แสนราย· โตเกียว โอเทมาจิ โอซาก้า โดจามะ ฯลฯ ทุกหนแห่งในญี่ปุ่นแตกกระจายกันไป IX (Internet Exchange Point) ล่มสลาย
· ญี่ปุ่นยอมรับการล่มสลายของสหรัฐฯ และฉีกรัฐธรรมนูญแห่งประเทศญี่ปุ่นทิ้ง ก่อนจะบัญญัติเป็นรัฐธรรมนูญแห่งประเทศญี่ปุ่นใหม่ และบังคับใช้กำลังปราบปรามฝ่ายค้าน
· รัฐบาลญี่ปุ่นใหม่ได้แยกกระทรวงป้องกันประเทศออกมา ในคราวเดียวกันก็ได้ยกเลิกกองกำลังป้องกันตนเองทิ้งไป
· รัฐบาลญี่ปุ่นใหม่ออกประกาศเผาตำรา เพื่อหลีกเลี่ยงสงครามที่เคยใช้วิทยาการทางวิทยาศาสตร์ เอกสารเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์จึงถูกเผาทำลายทิ้งจนหมดสิ้น
· นโยบายของรัฐบาลญี่ปุ่นใหม่ ไม่ได้เข้ากับสภาพที่แท้จริงของสังคมภายในประเทศจึงความโกลาหลขึ้น เกิดการจลาจลจากฝ่ายต่อต้านรัฐบาลขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วทุกหนแห่งในญี่ปุ่น (การปฏิวัติครั้งใหญ่)
· ความอดอยากอย่างรุนแรง การพังทลายครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรม, โครงสร้างพื้นฐานและสิ่งแวดล้อม ฯลฯ การปฏิวัติครั้งใหญ่นำมาซึ่งความโกลาหลอย่างใหญ่หลวงภายในประเทศญี่ปุ่น ภายในเวลาไม่กี่ปีจำนวนประชากรก็ได้ลดลงเหลือต่ำกว่า 1 ใน 10 เร่งการถดถอยของอารยธรรมขึ้น
· โอกินาว่าประกาศเอกราชจากญี่ปุ่นใหม่
· หลายปีให้หลังจากโอกินาว่าเป็นเอกราช แต่ละจังหวัดยกเว้นคันโตประกาศเอกราชจากญี่ปุ่นใหม่ กองกำลังทหารขึ้นปกครองตนเอง เข้าสู่ยุคสงครามกลางเมือง
ยุคสงครามกลางเมือง
ช่วงเวลาประมาณ 30~50 ปี
· ยุคสมัยที่ขาดแคลนข้อมูล ปียามาโตะ
ที่ 1~5
· แคว้นพันธมิตรคินคิ, แคว้นพันธมิตรจู-ชิโกคุและแคว้นพันธมิตรคิวชู ได้ทำการปราบปรามทั้งสี่เกาะของญี่ปุ่นให้อยู่ในความสงบ· ปฐมจักรพรรดิแห่งยามาโตะ ฟูจิที่ 1 ขึ้นครองราช
· กำหนดให้โอซาก้าเป็นเมืองหลวง และยามาโตะเป็นชื่อแคว้น
· เลิกใช้ระบบจังหวัดเปลี่ยนเป็นนครแทน
· เริ่มอุตสาหกรรมการผลิตกระจก
· ปฏิรูประบบราชการ ระบบนาเฉลี่ย ระบบเงินตรา
· ทำการจัดตั้งหน่วยงานทัพชายแดน กองกำลังที่ขึ้นตรงกับองค์จักรพรรดิแห่งยามาโตะที่นครชายแดน
ที่ 6~10
· ยามาโตะ บุกรุกแคว้นพันธมิตรจูบุ ยึดครองฟุกุอิ, ไอจิและกิฟุ (ส่วนหนึ่ง) ซึ่งเป็นดินแดนของแคว้นพันธมิตรจูบุ· อิชิกาวะ, โทยามะและนีกาตะ แยกตัวออกมาจากแคว้นพันธมิตรจูบุ ผนวกเข้ากับแคว้นพันธมิตรโทโฮคุ ก่อตั้งแคว้นเซอิขึ้นโดยมีเซโร (นีกาตะเดิม) เป็นเมืองหลวง
ที่ 11~20
· ปฐมจักรพรรดิแห่งยามาโตะ ฟูจิที่ 1 เสด็จสวรรคต· องค์จักรพรรดิลำดับที่ 2 แห่งยามาโตะ ฟูจิที่ 2 ขึ้นครองราช
· เกิดการก่อกบฏขึ้นที่คิวชูอย่างต่อเนื่อง ฟูจิที่ 2 ให้กองทัพมุ่งหน้าไปปราบปรามการก่อกบฏ
· แคว้นพันธมิตรคันโต ได้ยึดครองยามานาชิ, ชิสึโอกะ, นากาโนะและกิฟุ (เว้นเพียงส่วนหนึ่ง) ก่อตั้งแคว้นบุโอขึ้นโดยมีโอดาวาระ (คานากาวะเดิม) เป็นเมืองหลวง (เกิดเป็นศึกสามก๊ก)
· ยามาโตะเข้าปราบปรามการก่อกบฏของคิวชู
ที่ 21~30
· บุโอได้เข้ายึดครองฟุกุชิมะ ซึ่งเป็นดินแดนของเซอิ· บุโอได้บุกรุกนครไอจิ ซึ่งเป็นดินแดนของยามาโตะ ยามาโตะได้ทำการขับไล่ไป
· เซอิได้บุกรุกนครฟุกุอิ ซึ่งเป็นดินแดนของยามาโตะ ยามาโตะได้ทำการขับไล่ไป
· เกิดการก่อกบฏของเกษตรกรขึ้นที่นครยามากุจิและนครโคจิขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยามาโตะได้ทำการปราบปราม
ที่ 31~40
· บุโอได้เข้ายึดครองมิยางิ ซึ่งเป็นดินแดนของเซอิ· ฟูจิที่ 2 แต่งตั้ง ริวมง มิตสึฮิเดะ ขึ้นเป็นนายพลทัพชายแดน
· บุโอได้บุกรุกนครชิกะ ซึ่งเป็นดินแดนของยามาโตะ ยามาโตะได้ทำการขับไล่ไป
· จักรพรรดินีเสด็จสวรรคต แต่งตั้งจักรพรรดินีองค์ใหม่ขึ้นจากตระกูลไทระ ตระกูลที่มีชื่อเสียง
· ไทระ เด็นกิ เข้ารับตำแหน่งอัครมหาเสนาบดี
· ไทระ เด็นกิ ใช้อำนาจเข้ากดดันตระกูลต่างๆ เช่นตระกูลอาซามะ
· ไทระ เด็นกิ ดูแลการบริหารแคว้น ปรับปรุงระบบเงินตรา
· ไทระ เด็นกิ วางยาสังหารฟูจิที่ 2 น้องสาวซึ่งได้เป็นพระพันปีและบุตรสาวได้เป็นองค์จักรพรรดินี คอยสนับสนุนฟูจิที่ 3 จักรพรรดิลำดับที่ 3 แห่งยามาโตะ
· ไทระ เด็นกิ ปรับปรุงระบบบุคลากร แต่งตั้งตระกูลไทระในตำแหน่งสำคัญๆ
ที่ 41~50
· ไทระ เด็นกิ ส่งคณะผู้แทนไปประจำยังภาคพื้นทวีป ลงนามสนธิสัญญาทางการค้ากับแคว้นชิโอะอุมิ· ไทระ เด็นกิ เริ่มการก่อสร้างคฤหาสน์หลังโตที่นครโอซาก้า
· เซอิได้บุกรุกนครฟุกุอิซึ่งเป็นดินแดนของยามาโตะ ยามาโตะได้ทำการขับไล่ไป
ที่ 51~57
· ไทระ เด็นกิ ตรวจตราแต่ละภูมิภาค· ศึก ณ นากาชิโนะ ยามาโตะขับไล่บุโอ
แนะนำตัวละคร
มิซุมิ อาโอเทรุ
เกิดปียามาโตะที่ 41 นครเอฮิเมะเป็นคนที่ช่างพูด เจ้าสำบัดเจ้าสำนวนมาตั้งแต่ยังเด็ก
เพราะไม่นานหลังจากที่เกิดมา พ่อก็จากไปด้วยโรคภัย ครอบครัวจึงตกระกำลำบากยากจนข้นแค้น เมื่ออายุได้ 3 ปี แม่ก็มาจากไปด้วยโรคภัยเช่นกัน ในปีเดียวกันก็ได้ฮิกาชิมาจิ โนบุฮิโตะ ที่เป็นเพื่อนสนิทของพ่อและหัวหน้าบรรณารักษ์เข้ามารับมาดูแล
ในตอนนั้นอาโอเทรุคิดว่าการที่ถูกเข้ารับมาดูแลนั้น เป็นการรบกวน
นับแต่นั้นมาเขาก็ใช้เวลาไปกับการศึกษาตัวอักษร หมกมุ่นอยู่กับการอ่านและวาดแผนที่ ความรู้ต่างๆในยุคสมัยญี่ปุ่นติดตัวไว้ และได้เป็นพนักงานกรมนาเมื่ออายุ 14 ปี
เมื่ออายุ 15 ปี เขาได้พบรักและแต่งงานกับซากิ ลูกสาวของฮิกาชิมาจิ โนบุฮิโตะ หัวหน้าบรรณารักษ์
แต่ทว่า เพราะซากิถูกไทระ เด็นกิ อัครมหาเสนาบดีลงโทษไป ชีวิตของเขาจึงได้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงขึ้น
ฮิกาชิมาจิ ซากิ
เกิดปียามาโตะที่ 40 นครเอฮิเมะเป็นพวกชอบทำตามอำเภอใจตั้งแต่ยังเด็ก
ตอนอายุ 6 ปี ซากิได้ไล่ตะเพิดพวกเด็กผู้ชายที่หัวเราะเยาะและขวางอาโอเทรุที่กำลังวาดแผนที่อยู่ให้
นับแต่นั้นมาทั้ง 2 คนก็คบหากันจน อายุได้ 16 ปีจึงแต่งงานกัน
ในปีเดียวกันได้ถูกลงโทษจากการเข้าไปช่วยเหลือ ชาวเมืองที่ทรมานจากการการเก็บภาษีของนายอากรตระกูลไทระ และทำให้ไทระ เด็นกิ อัครมหาเสนาบดีโกรธ
เป็นคนแนะนำให้อาโอเทรุไปรับราชการที่ทัพชายแดนของริวมง มิตสึฮิเดะ
อาซามะ โยชิสึเนะ
เกิดปียามาโตะที่ 39 นครวากายามะทายาทตระกูลอาซามะ ตระกูลซึ่งถูกลดทอนอำนาจลง จากการขึ้นเป็นใหญ่ของตระกูลไทระ
ตอนยังเด็กได้รับการอบรมสั่งสอนเป็นพิเศษจากมารดา
ทั้งศาสตร์ในการสู้รบและยุทธวิธีนำชัยในการทำสงคราม แม้จะใช้พลังเหลือล้นไปบ้างแต่ก็มีผลงานที่น่าภาคภูมิ สมาชิกในหน่วยส่วนหนึ่งจึงไม่พอใจ
กับอาโอเทรุ เจ้าตัวรู้สึกเป็นปรปักษ์เอาเองอยู่ฝ่ายเดียว
ด้วยความเป็นมาเธอร์ค่อนจึงกำลังเขียนชีวประวัติมารดาตนอยู่
ริวมง มิตสึฮิเดะ
เกิดปียามาโตะที่ 8 นครเฮียวโงะตอนยังเด็กใช้ชีวิตเป็นชาวไร่
ตอนอายุ 17 ปี ที่เมืองอิคุโนะนครเฮียวโงะ บ้านเกิดเกิดเหตุโจรขโมยกว่าร้อยคนปล้นขึ้น แต่ทว่ามิตสึฮิเดะได้นำเหล่าชาวนาจำนวนเพียงน้อยนิดขับไล่ไปได้
ณ ตอนนั้นได้พลาดท่าถูกยิง เสียตาซ้ายให้แก่ศัตรู
ด้วยความกล้าหาญและคุณงามความดีในครั้งนี้ จึงได้เข้ารับตำแหน่งเจ้าเมืองอิคุโนะ
ตอนอายุ 24 ปี ฟูจิที่ 2 จักรพรรดิองค์ก่อนทรงได้ยินว่ามิตสึฮิเดะมีความสามารถ จึงเรียกตัวมิตสึฮิเดะมาและทรงแต่งตั้งให้เป็นนายพลทัพชายแดน
เป็นคนที่ทั้งจิตใจงามทักษะทางการทหารเป็นเลิศและยังจริงจังสุดๆ ไม่ว่าใครต่างก็นับถือ ผู้คนต่างก็ต้องการจะมารับใช้มิตสึฮิเดะ
คาคุ ยาสุอากิ
เกิดในปียามาโตะที่ 27 นครโอซาก้าแม้แต่ในเมืองที่เกิดเอง ก็เป็นตระกูลผู้ดีตกอับกันมารุ่นต่อรุ่น
เพราะยากจน ยาสุอากิที่ไม่ได้เข้ารับการศึกษา ตั้งแต่ยังเด็กจึงไปเล่นพนันกับอีกฝ่ายที่เป็นผู้ใหญ่อย่างแข็งขัน
ยาสุอากิเล่นพนันเก่ง และพยายามนำเงินที่ชนะพนันมาใช้ในการซื้อหนังสือเพื่อการศึกษา
ตอนอายุ 21 ปีได้เข้ารับการสอบ "โทริวมง" และสร้างความประทับใจให้กับริวมง มิตสึฮิเดะ นายพลทัพชายแดนที่นานๆจะกลับมาจากการทำงานที่ชายแดน จนเขาปรารถนาที่จะรับตัวเข้าไปทำงานอย่างงดงาม
เป็นที่ยอมรับของสมาชิกในหน่วยและได้รับความไว้วางใจเป็นอย่างมากจากมิตสึฮิเดะ "ถ้าคาคุตัดสินใจแล้วก็จะไม่มีผิดพลาด"
ไทระ เด็นกิ
เกิดในปียามาโตะที่ 5 นครโอซาก้าลูกหลานของตระกูลไทระ ซึ่งแต่ละรุ่นๆได้สร้างผลงานไว้ ในฐานะตระกูลที่ทรงอำนาจมาตั้งแต่ก่อนก่อตั้งแคว้นยามาโตะ
ตอนยังเด็กทุ่มเทกับการศึกษาและการล่าสัตว์
เข้าทำงานด้วยเส้นสายและได้เลื่อนขั้นเป็นตัวแทนภูมิภาคคินคิ เมื่อน้องสาวได้เป็นจักรพรรดินีของฟูจิที่ 2 จักรพรรดิองค์ก่อนก็ได้เข้ารับตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีด้วยวัย 32 ปี หลังจากเข้ารับตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีได้วางยาสังหารฟูจิที่ 2 จักรพรรดิองค์ก่อน สนับสนุนฟูจิที่ 3 ซึ่งยังเยาว์วัย แต่งตั้งบุตรสาวตนขึ้นเป็นจักรพรรดินี และกุมอำนาจทั้งหมดไว้ในมือ
ไม่ยกโทษให้ผู้ที่ทำให้ตนไม่ชอบใจ
คำพูดที่เกลียดที่สุดก็คือ"ไอ้หมูตอน"
ฟูจิที่ 3
เกิดในปียามาโตะที่ 33 นครโอซาก้าบุตรชายคนที่ 3 ของพระสนมในฟูจิที่ 2 จักรพรรดิองค์ก่อน
ภายหลังไทระ เด็นกิ อัครมหาเสนาบดีวางยาสังหารฟูจิที่ 3 เพื่อการรักษาอำนาจ ภายหลังการบังคับใช้กำลังปราบปรามฝ่ายค้านภายในราชสำนัก เขาจึงถูกสนับสนุนขึ้นมา
ขึ้นเป็นจักรพรรดิด้วยพระชนมพรรษาเพียง 4 พรรษา
แม้จะเป็นประมุขของแคว้น แต่อำนาจทางการเมืองทั้งหมดเป็นของไทระ เด็นกิ อัครมหาเสนาบดี เป็นผู้ที่มีตำแหน่งจักรพรรดิแต่ในนามเท่านั้น